
เที่ยวอิสตันบูล ประเทศตุรกี ฮาเกียโซเฟีย ภาค 3 การจลาจลนิก้า Nika Revolt ตอน 4

อิสตันบูล เที่ยวสุขสันต์ สนุกด้วยกันใน ประเทศตุรกี ตอน 4 ฮาเกียโซเฟีย ภาค 3 การจลาจลนิก้า
(Istanbul Fun Days EP.3 Hagia Sophia 3 Nika Revolt)
ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) มหาวิหารสุดอลังการล้ำค่า แต่ถูกเผาทำลาย ด้วยน้ำมือชาวคอนสแตนติโนเปิล เพราะอะไรน่ะรึ
ชาขมอยากเล่าเรื่องการจลาจลนิก้านี้สั้นๆ นะคะ เพราะน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่เอ๊ะ.. เล่าไปแล้วยาว เลยแยกมาเป็นภาค 3 ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันนะคะ ^_^
เรื่องมีอยู่ว่า.. ในยุคจักรวรรดิไบเซนไทน์ และโรมันโบราณมีการจัดตั้งสมาคม หรือกลุ่มแฟนคลับในการเชียร์กีฬาแข่งรถม้า โดยแบ่งทีมกลุ่มเป็น 4 สีด้วยกัน คือสีน้ำเงิน สีเขียว สีแดง และสีขาว และในยุคไบเซนไทน์ ทีมสีน้ำเงิน และสีเขียวเป็นทีมที่มีอิทธิพลอย่างมาก และจักรพรรดิจัสติเนียน (Emperor Justinian I) ทรงสนับสนุนทีมสีน้ำเงิน
ทีมเหล่านี้มีการรวมกลุ่มเพื่อสนันสนุนในงานหลายด้านทั้งด้านสังคม และการเมือง ทั้งยังมีการร่วมมือกันของแก๊งอันธพาล และพรรคการเมือง เริ่มมีการท้าทายอำนาจของจักรพรรดิ มีการตะโกนความคิดความต้องการทางการเมืองในสนามแข่ง และมีกลุ่มขุนนางในคนกลุ่มนี้ที่มีความคิดในการล้มบัลลังก์
ปี ค.ศ.531 สมาชิกของกลุ่มสีน้ำเงิน และสีเขียวถูกจับกุม ในคดีอาชญากรรมอันเนื่องจากมีคนตายเพราะเหตุตีกันหลังการแข่งรถม้า เหมือนบอลจบ คนไม่จบ ตีกันหลังบอลแข่งเสร็จในสมัยนี้น่ะค่ะ
ปี ค.ศ.532 ความตึงเครียด และความโกรธเกรี้ยวเดินทางมาถึงการแข่งขันที่ฮิปโปรโดรม ซึ่งที่นี่จัสตินเนียนจะชมการแข่งขันจากห้องที่ปลอดภัยในวัง ในการแข่งขันจากที่ผู้คนจะร้องเชียร์สีตัวเองว่า “สีน้ำเงิน” หรือ “สีเขียว” กลับร้องตะโกนว่า “นิก้า” ซึ่งแปลว่า ชัยชนะ และฝูงชนเริ่มทำลายพระราชวัง 5 วันต่อมาวังถูกล้อม และผู้คนเริ่มเผาเมือง เผาทำลายโบสถ์ล้ำค่า รวมทั้งฮาเกียโซเฟีย (ซึ่งที่สุดแล้ว ก็จัสติเนียนเป็นผู้บูรณะอีกทีล่ะค่ะ)
เมื่อเหตุการณ์ลุกลามรุนแรงดังนี้ จักรพรรดิจัสติเนียนจึงต้องการจะหลบหนี แต่จักรพรรดินีธีโอโดร่า (Empress Theodora) เหนี่ยวรั้งไว้ด้วยคำโบราณว่า “ราชวงศ์นั้นจะต้องมีผ้าห่อพระศพชั้นเลิศ” (“Royalty is a fine burial shroud.”) คือก็ต้องตายอย่างมีเกียรติล่ะค่ะ ไม่ใช่หนีออกจากวังจากเมืองเช่นที่คิดนี้
จัสติเนียนจึงทรงรวบรวมไพล่พลลับๆ นาเซส ขันทีมือฉมัง (Narses, the eunuch) และนายพล Belisarius และนายพล Mundus โดยจัสติเนียมได้เอาถุงทองคำให้นาเซสไปเจรจา โดยฝ่าเข้าไปในฮิปโปรโดรมคนเดียว และไม่มีอาวุธใดๆ ซึ่งขณะนั้นมีผู้คนนับร้อยถูกฆ่า นาเซสตรงไปยังผู้นำของสีน้ำเงิน และย้ำเตือนว่าจักรพรรดิจัสติเนียนทรงสนับสนุนทีมสีน้ำเงินนะ และคนที่พวกจลาจลทั้งหมดอยากแต่งตั้งให้ครองบัลลังก์แทน คือ ไฮพาทิอุส (Hypatius) (ซึ่งเป็นหลานของจักรพรรดิอนาสตาซิอุสที่ 1 (Emperor Anastasius I) นั้นเป็นคนของสีเขียว และให้ทีมสีน้ำเงินแบ่งทองคำกัน เพื่อรวบรวมพลพรรคอย่างเงียบๆ และในวันบรมราชาภิเษกของไฮพาทีอุส ทีมสีน้ำเงิน ก็ถาโถมรุกเข้าไปในฮิปโปรโดรม ซึ่งทีมสีเขียวได้แต่นั่งตะลึงงัน ไม่คาดคิด ทันใดนั้นกองกำลังของนายพล Belisarius และนายพล Mundus ก็ได้รุกเข้าฆ่าฟันเหล่ากบฏ
จากเหตุการณ์นี้ผู้คนประมาณ 30,000 คนถูกฆ่าตาย จัสติเนียนปลงพระชนม์ไฮพาทิอุส และเนรเทศเหล่าขุนนางที่เข้าข้างพวกกบฏ พระองค์ทรงบูรณะกรุงคอนสแตนติโนเปิล และฮาเกียโซเฟีย รวมทั้งผ่อนผันกฎหมายใหม่และโครงสร้างภาษีที่สูงขึ้น และมุ่งหน้าสร้างเมืองใหเป็นจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ตามความฝันของพระองค์
เมื่อนึกภาพความเสียหาย และความสูญเสียจากการจลาจลครั้งนี้แล้ว ก็เชื่อค่ะว่าเป็นความย่อยยับจากความวุ่นวายภายในเองครั้งใหญ่สุดของกรุงคอนสแตนติโนเปิล แต่ภาพของฮิปโปรโดรมในวันนี้ก็เป็นที่ที่น่าชม น่าเดินเล่น บรรยากาศดี วิวสวย และเพื่อนๆ ต้องไม่พลาดเลยนะคะ ถ้ามีโอกาสไปเยือนอิสตันบูลค่ะ
ตลาดทัวร์ แมกกาซีน...รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์ สนุกกับการเดินทางไปกับเรานะคะ
LIKE & Follow เราได้ที่ FB: ตลาดทัวร์ แมกกาซีน