ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์ ดินแดนปุยฝ้ายสวรรค์ ณ เมืองสองทวีป ประเทศตุรกี

88,370 Views

หากพูดถึง ปามุคคาเลย์ (Pamukkale) หรือ ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) เราจะนึกถึงดินแดนขาวโพลน กว้างใหญ่ ลดหลั่นเป็นชั้น ดูเหมือนนุ่ม ปุย ขาว ราวกับหิมะ แต่นั่นคือลานแคลเซียมที่สวยที่สุดในโลกค่ะ ^_^

ปลายปี 2016 ชาขมได้มีโอกาสกลับมาเยือนปามุคคาเลย์ หรือปราสารทปุยฝ้ายเป็นครั้งที่ 4 ... คราวนี้ไม่เหมือนกับคราวก่อนๆ เพราะพื้นที่แห่งนี้ มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนเดิมในแต่ละวาระเวลา ชาขมจะขอเล่ากลับไปเมื่อ 200 ปีก่อนคริสตกาลว่า พระเจ้าอูเมเนสที่ 2 (Eumenes II) กษัตริย์แห่งนครเพอกามันได้ตั้งเมืองไว้ใกล้ๆ กันเพราะเชื่อว่าน้ำแร่แห่งปามุคคาเล่ย์สามารถรักษาโรคได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นหอบหืด ไขข้อ และโรคผิวหนังได้ชะงัดนัก.. พระองค์จึงทรงตั้งพระนครไว้ใกล้ๆ ชื่อนครเฮียราโพลิส Hierapolis ซึ่งเฮียรา Hiera แปลว่าศักดิ์สิทธิ์ หรือความสุข ดังเช่นคำว่า Happy หรือ Holy และคำว่า โพลิส Polis แปลว่าเมืองใหญ่ จนเมื่อปี ค.ศ. 1989 องค์การยูเนสโก้ได้แต่งตั้งให้เมืองปุยฝ้ายแห่งนี้สถานปนาขึ้นเป็นเมืองมรดกโลก 


ซึ่งตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว น้ำพุร้อน หรือน้ำแร่ ได้นำพาแร่แคลเซียมคาร์บอเนตนี้ไหลมาตามชั้นหิน เกิดเป็นแอ่งน้ำ หรือเทอร์เรส Terrace ตามธรรมชาติ เมื่อน้ำแร่ไหลไปตามพื้นหิน แคลเซียมจะเกาะตัวติดอยู่กับหิน ส่วนคาร์บอนเนตจะแปรสภาพกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์แยกตัวไป นานๆ เข้าแคลเซียมขาวจะเกาะเต็มพื้นหินบนภูเขาจนมองไม่เห็นพื้นหิน พื้นดิน ซึ่งเวลาที่เราลงไปเดินนั้น เราจะสัมผัสได้ถึงแร่ผงละเอียดเหมือนแป้งในน้ำแร่ ส่วนในทางน้ำไหลนั้นก็จะมีพืชน้ำเขียวๆ เส้นๆ ซึ่งน่าจะเป็นสาหร่ายอยู่ที่พื้นของลำธาร … และถ้าเราไปเที่ยวในฤดูร้อน เราจะเห็นฝรั่งใส่ชุดว่ายน้ำ หรือบิกินนี่ นั่งแช่ในเทอเรส หรือแอ่งน้ำ หรือในแอ่งลำธาร ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะพวกเค้ายังคงเชื่อในเรื่องน้ำแร่นี้ช่วยรักษาโรคได้ แม้ว่าคงไม่อาจสามารถรักษาโรคร้ายแรง แต่โรคผิวหนัง ชาขมก็คิดว่า น่าจะได้อยู่นะคะ เพราะแค่เราเดิน..เท้าเรายังสัมผัสถึงผงแร่แคลเซียมนิ่มๆ ในพื้นน้ำได้เลยค่ะ...นุ่มเท้าบ้าง หินแห้งแข็งเจ็บเท้าบ้าง สนุกดีค่ะ ^_^


ชาขมได้ไปครั้งแรกเมื่อเมษายน 2014 เป็นช่วงเวลาที่มีแดดกำลังดีค่ะ เราไปถึงในช่วงเวลากลางวัน แดดสวย และน้ำพุ หรือน้ำแร่ที่หล่อพื้นบริเวณปามุคคาเลย์อุ่นกำลังดี แสงสวยค่ะ ถ่ายรูปได้เป็นนาน อากาศดี ทำให้เรามีอารมณ์ที่จะเดินเอาเท้าเราลองจุ่มในธารน้ำไหลดู คือแปลกค่ะ ข้างใต้ธารน้ำนี้ มันมีสาหร่ายอยู่ข้างใต้ สยึ๋มกึ๋ยเท้าแปลกดีค่ะ ส่วนบริเวณน้ำที่อยู่ในเทอเรสก็สะท้อนแดดเป็นสีฟ้าเขียว สวยมากๆ เลยค่ะ

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

ครั้งที่ 2 พาสื่อไปถ่ายทำเมื่อกุมภาพันธ์ 2015 โอ้ววว คราวนี้เราบินหนีหิมะที่เริ่มตกในกรุงอิสตันบูลมาลงที่สนามบินเมือง Denizli แล้วนั่งรถต่อมายัง Pamukkale แห่งนี้ อากาศค่อนข้างครึ้ม เนื่องด้วยเป็นฤดูหนาว พื้นหินแคลเซียนนี้เย็นเฉียบค่ะ ชาขมเห็นน้ำพุร้อนๆ พุ่งขึ้นมาจากท่อน้ำ ตรงบริเวณข้างๆ ลานที่เราถอดรองเท้าเริ่มเดินลงมา น้ำแร่นี้ควันขโมง ซึ่งร้อนมากค่ะ เพราะชาขมเอาเท้าไปแช่ในธารน้ำตรงบริเวณต้นน้ำ อืมมม ร้อนนนนค่ะ ดีตรงที่เราสามารถนั่งขอบลำธาร ซึ่งเย็นก้นอยู่ และเอาเท้าแช่น้ำแร่ซึ่งอุ่นมากได้อย่างสบาย พร้อมดูวิวเมืองเก่าแห่งนี้ได้อย่างชิลอารมณ์ ^_^ แต่ว่าภาพที่ถ่ายออกมานั้น อาจไม่ค่อยสวยแจ่มค่ะ ก็แสงมันไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่เนาะ

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

ครั้งที่ 3 พาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเมื่อพฤษภาคม 2015 ครั้งนี้ เรามาถึง Pamukkale ก็ประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว เราเลยเข้าไปเยี่ยมชมเลย โอ้วววว แปลกตาค่ะ แสงเป็นสีทองยามเย็น แสงแดดตกกระทบกับแร่แคลเซียมสวยระยิบระยับยิ่งนัก แต่ว่าภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นแนวสีเหลืองทอง และเงาค่อนข้างเยอะค่ะ ..คือสำหรับชาขม มันสวยไปอีกแบบ เพราะเคยเห็นแสงขาวมาแล้ว แต่เพื่อนๆ บางคนอย่างได้ภาพแสงขาวอะค่ะ เลยบอกว่า คราวหน้ามา จะมาตอนเช้าแทนค่ะ เพื่อนๆ ดูความแตกต่างได้ในภาพนะคะ

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

และล่าสุดพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเมื่อธันวาคม 2016 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฤดูหนาวของตุรกีค่ะ อากาศสุดติ่งค่ะ เมื่อเราเดินจากทางเข้าผ่านเข้ามาตามทางเดินเดิมๆ ซึ่งทางขวามือเราจะเห็นเมืองเฮียราโพลิสไกลๆ เช่นเดิม แต่เมื่อเรามาถึงบริเวณที่ต้องถอดรองเท้า เพราะเค้าต้องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินี้ไว้ให้นานเท่านาน.. บริเวณที่ต้องถอดรองเท้า เรามองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ไม่เห็นวิว วิสัยทัศน์นั้นแค่เมตรสองเมตรเราก็มองอะไรไม่เห็นแล้วค่ะ และมันเป็นลานหินแคลเซียมด้วยแล้ว เราต้องรอเวลาซักนิด และใช้ความระมัดระวังขั้นสูงในการเดินลงไป ซึ่งเราจะเดินเลาะแนวเทอเรสลงไปถึงทางออกด้านล่างค่ะ เรากะแล้วว่าเราจะต้องใช้เวลาในการเดินลงมากกว่าทุกครั้ง เพราะหมอกลงจัดเหลือเกิน แต่.. โชคดีค่ะ ที่เมื่อสายขึ้นเรื่อยๆ หมอกก็จางลง แต่เวลาถ่ายภาพ ก็ยังเห็นหมอกในภาพเราได้อย่างชัดเจน ส่วนน้ำแร่ก็อุ่นดีมากค่ะ มีบางช่วงที่แห้ง ก็...วิ่งสิคะ เย็นจนฝ่าเท้าเราไม่รู้สึกเลยล่ะค่ะ

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

แต่ต้องบอกว่า ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยือนปามุคคาเลย์ หรือปราสาทปุยฝ้ายแห่งนี้ เมื่อพวกเราเดินลงไป เราจะได้ยินเสียงว้าววว เสียงพูดคุยชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สรรสร้างวิวที่สวย และลานขาวราวหิมะนี้ขึ้นมาได้นับพันๆ ปี และเสียงหัวเราะของเพื่อนฝูงที่มาแวะชมสถานที่นี้ด้วยกัน .. สำหรับชาขม การมาเที่ยวแล้วมีเสียงหัวเราะแห่งความสุข มันเป็นความสุขที่มากกว่าของคนที่ได้พามา.. และชาขมหวังว่า เพื่อนๆ ที่ติดตามบทความนี้จะได้เห็นภาพ และมีความสุขไปกับการพาเที่ยวด้วยตัวหนังสือ และภาพของชาขมนะคะ


ถ้าสนใจอยากไปเที่ยวที่ไหนด้วยกัน ติดต่อได้ที่ taladtourmag@gmail.com นะคะ ชาขมพาไปได้ทุกที่ทั่วโลกค่ะ ^_^ 
ตลาดทัวร์แมก รอบรู้เรื่องเที่ยว เชี่ยวชาญเรื่องทัวร์

 

กุมภาพันธ์ 2014

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์

ปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุคคาเลย์