ข้อมูลเที่ยวประเทศโครเอเชีย รู้จักโครเอเชีย ก่อนเดินทาง

82,883 Views

ข้อมูลเที่ยวประเทศโครเอเชีย รู้จักโครเอเชีย ก่อนเดินทาง

-สาธารณรัฐโครเอเชีย

-ที่ตั้ง อยู่ระหว่างยุโรปกลาง  และเมดิเตอร์เรเนียน บริเวณริมฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติก

-พื้นที่ 56,542 ตารางกิโลเมตร

-เมืองหลวง  กรุงซาเกร็บ (Zagreb)

- ประชากร 4.4 ล้านคน  ประกอบด้วยชาวโครอัท (89.6%) ชาวเซิร์บ (4.54%) และอื่นๆ ได้แก่ ชาวบอสเนีย  ฮังกาเรียน  สโลวีน  เช็ค (5.9%)

- ภูมิอากาศ  แบบเมดิเตอร์เรเนียนแถบชายฝั่งทะเลเอเดรียติก และภูมิอากาศเทือกเขาบริเวณตอนกลาง ของประเทศ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 14-27  องศาเซลเซียส

- ภาษา  โครเอเชียนเป็นภาษาราชการ ภาษาอื่นๆ ที่ใช้พูดกันโดยชนกลุ่มน้อยได้แก่ เซอร์เบียน ฮังกาเรีน อิตาเลียน เยอรมัน อังกฤษ

- ศาสนา โรมันคาทอลิก 85.8% ออโธด๊อกซ์ 3.2% มุสลิม 11%

- หน่วยเงินตรา คูน่า (Kuna) อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 4.66 คูน่า เท่ากับประมาณ 1  ดอลล่าร์สหรัฐ

- ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 50.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550)

- รายได้ประชาชาติต่อหัว 11,271 ดอลล่าร์สหรัฐ (2550)

- การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 5.4 (2550)

- ระบบการปกครอง  ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสภาเดียว  เรียกว่า Sabor  มีสมาชิก  152  คน  ประธานาธิบดีเป็นประมุข  โดยมาจากการเลือกตั้ง  และเป็นผู้แต่งตั้ง คณะรัฐบาล  มีวาระ 5 ปี  ปัจจุบัน คือนาย Stjepan Mesic ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์  2553 ( ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2  เมื่อเดือนมกราคม 2558)  รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสมเสียงข้างมาก  ระวังพรรค Croatia Democratic Union และพรรค Democratic Centre มี 19 จากเสียงทั้งหมด 152 เสียง

 การเมืองการปกครองประเทศโครเอเชีย

1.    โครเอเชียเดิมเป็นหนึ่งในหกสาธารณรัฐ  ซึ่งประกอบขึ้นเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยม ยูโกสลาเวีย (Socialist Federal Republic of Yugoslavia หรือ SFRY)  อยู่ภายใต้การนำของจอมพลติโต  ชาวโครอัท  ซึ่งสามารถควบคุมสถานการณ์ความแตกแยกระหว่างเชื้อชาติไว้ได้ในระดับหนึ่ง  อย่างไรก็ตามภายหลังการอสัญกรรมของจอมพลปิโตในปี 2523 ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของสาธารณรัฐต่างๆ  ในยูโกสลาเวียเริ่มมีความรุนแรงขึ้น โครเอเชียจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2533  โดยประธานาธิบดี Franjo Tudjman ได้รับเลือกตั้ง  และต่อมาก็ได้ประกาศเอกราช SFRY ซึ่งทำให้เกิดการสู้รบระหว่างโครเอเชียกับชาวเซิร์บในโครเอเชียซึ่งมียูโกสลาเวียหนุนหลัง  และยุติลงเมื่อผู้นำโครเอเชีย เซอร์เบีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพเดย์ตัน ( Dayton Peace Accord ) เมื่อปี 2538

2.    ภายหลังการอสัญกรรมของประธานาธิบดี Tudjman ในปี ๒๕๔๒ นาย Sijepan Mesic ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี คนใหม่ซึ่งเป็นผู้นําเสรีนิยมประชาธิปไตยรุ่นใหม่ ทําให้โครเอเชียพัฒนาไปอย่างมาก โดยได้ปรับเปลียนเป้าหมาย และนโยบายจากเดิมที่ให้ความสําคัญกับการต่อสู้เพื่อผนวกดินแดนบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา ซึ่งมีชาวโครอัทอาศัยอยู่จํานวนมากเป็นการให้ความสําคัญกับการยุติความขัดแย้งกับบอสเนียฯ การปรับความสัมพันธ์กับประเทศยุโรปตะวันตก และการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทั้งนี เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๔๘ ประธานาธิบดี Stjepan Mesic ได้รับเลือกตังเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ ๒ และจะดํารงตําแหน่งจนถึงปี ๒๕๕๓

3.    เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๐ โครเอเชียได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาทัวประเทศ ผลปรากฏว่า พรรค Croatian Democratic Union(HDZ)ต่อมาในวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๑ รัฐสภาโครเอเชียได้ลงมติให้ความเห็นชอบต์อรัฐบาลชุดใหม่ที่มีนาย Ivo Sanader เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยทีสอง ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี ๔ คน และรัฐมนตรี ๑๕ คน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือ นาย Gordon Jandrokovic ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ และเป็นดาวรุ่งของพรรค HDZ

4. นโยบายของรัฐบาลสมัยที่สองของนาย Sanader ยังคงดำเนินนโยบายสายกลาง ค่อนไปทางอนุรักษ์นิยม ด้านการต่างประเทศส่งเสริมการมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา และมุ่งให้โครเอเชียเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) โดยหวังว่าจะสามารถบรรลุผลสําเร็จเข้าเป็นสมาชิก EU ได้ในปี 2553 สัาหรับภาระสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมภายในประเทศคือการพัฒนาที่รวดเร็ว ให้ความสนใจอย่างจริงจังต่อปัญหาสังคม ปฏิรูประบบศาลยุติธรรม และระบบบริหารให้มีความสมบูร์ และขจัดการฉ้อราษฏร์บังหลวง